ADAM Furniture

โซฟา U Shape, L Shape และ I Shape ต่างกันอย่างไร? เลือกแบบไหนให้เหมาะกับบ้านคุณ

โซฟา U Shape เป็นตัวเลือกที่ดีในการเลือกโซฟาให้เหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่กว้าง

“โซฟา” คือเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลักที่ทุกบ้านขาดไม่ได้ และการเลือกโซฟาให้เหมาะกับบ้านก็เป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่เพียงตอบโจทย์การใช้งาน แต่ยังสะท้อนรสนิยมและสไตล์ของเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดี อีกทั้งโซฟายังเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่จะอยู่คู่บ้านไปอีกนานหลายปี หลายคนจึงสงสัยว่าควรเลือกโซฟาแบบไหนให้เหมาะกับบ้าน วันนี้เราจะพามาไขคำตอบ โดยดูจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ รูปทรง ขนาดพื้นที่ และวัสดุ เพื่อช่วยให้คุณได้โซฟาที่ทั้งสวยงามและตอบโจทย์การใช้งานอย่างแท้จริง

1. เลือกรูปทรงโซฟา

การเลือกโซฟาไม่ได้มีแค่เรื่องดีไซน์เท่านั้น แต่รูปทรงโซฟามีผลโดยตรงต่อการใช้งานและบรรยากาศของห้อง โดยโซฟาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดมี 3 แบบ ได้แก่ U Shape, L Shape และ I Shape ซึ่งแต่ละแบบก็เหมาะสมกับพื้นที่การใช้งานที่ต่างกัน

โซฟา U Shape

โซฟาทรง U มีดีไซน์โอบล้อมพื้นที่นั่ง ช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่นและเอื้อต่อการพูดคุยในครอบครัว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับบ้านที่มีพื้นที่กว้าง รองรับแขกได้หลายคนในคราวเดียว โซฟารูปแบบนี้จึงเป็นเหมือนศูนย์กลางของบ้าน เหมาะทั้งสำหรับการพักผ่อน การสังสรรค์ หรือแม้กระทั่งการทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว

โซฟา L Shape

ถือเป็นโซฟาที่ได้รับความนิยมสูงสุด เพราะทั้งสวยงามและจัดวางได้สะดวกสบาย ดีไซน์รูปตัว L ทำให้จัดวางชิดผนังหรือเข้ามุมห้องได้พอดี จึงช่วยประหยัดพื้นที่ และทำให้ห้องดูกว้างขึ้น เหมาะทั้งคอนโดหรือบ้านที่มีพื้นที่จำกัด ไปจนถึงบ้านหลังใหญ่ที่ต้องการการจัดสรรพื้นที่อย่างเป็นสัดส่วน

โซฟา I Shape

โซฟาทรงตรงแบบคลาสสิกหรือ I Shape โดดเด่นด้วยความเรียบง่าย ใช้งานง่าย และเข้ากับทุกสไตล์การตกแต่งห้อง เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบความมินิมอลหรือมีพื้นที่จำกัด เนื่องจากช่วยทำให้ห้องดูโปร่งและไม่อึดอัด

ดังนั้นหากคุณต้องการจัดสรรพื้นที่อย่างคุ้มค่า โซฟา L Shape คือตัวเลือกที่ดี หากบ้านมีพื้นที่กว้างและต้องการความอบอุ่น โซฟา U Shape จะตอบโจทย์ได้ดี ส่วนใครที่ชอบความเรียบง่ายและมินิมอล โซฟา I Shape คือคำตอบ

2. เลือกขนาดให้เหมาะสมกับพื้นที่ 

โซฟาที่สวยแต่ขนาดไม่พอดี อาจทำให้ห้องดูแคบ อึดอัด และเดินไม่สะดวก ดังนั้นอีกเทคนิคสำคัญคือ การวัดพื้นที่ห้องให้แม่นยำก่อนเลือกซื้อ เพื่อช่วยให้บ้านน่าอยู่และใช้งานได้จริงในทุกวัน โดยควรคำนึงถึงระยะการใช้งานดังนี้

  • เว้นพื้นที่รอบโซฟาอย่างน้อย 60–90 ซม. สำหรับทางเดิน เพื่อให้เคลื่อนไหวได้สะดวก
  • ควรเว้นระยะห่างระหว่างโซฟากับโต๊ะกลางประมาณ 40–60 ซม. เพื่อให้วางของหรือยื่นมือหยิบสิ่งของได้ง่าย
  • หากห้องมีพื้นที่จำกัด ควรเลือกโซฟาที่มีความยาวไม่เกิน 2 ใน 3 ของความกว้างห้อง จะช่วยให้สัดส่วนลงตัวและไม่ทำให้ห้องดูอึดอัดจนเกินไป

3. เลือกวัสดุให้เหมาะกับการใช้งาน

วัสดุเป็นอีกปัจจัยที่หลายคนมองข้าม แต่จริงๆ แล้ววัสดุมีผลต่อทั้งความสวยงาม ความสบาย และความทนทาน ดังนั้นจึงควรเลือกให้เหมาะกับลักษณะการใช้งาน ซึ่งวัสดุหลักในการนำมาใช้หุ้มโซฟามี 2 ประเภท คือ โซฟาผ้า และโซฟาหนัง 

โซฟาผ้า

โซฟาผ้าให้ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเอง มีสีสันและลวดลายให้เลือกมากมาย เนื้อผ้านุ่มสบายและระบายอากาศได้ดี จึงเหมาะสำหรับคนที่ชอบนั่งพักผ่อนหรือใช้เวลาอยู่บนโซฟานาน ๆ อย่างไรก็ตาม โซฟาผ้ามักอมฝุ่นและทำความสะอาดยาก จึงอาจไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นภูมิแพ้

โซฟาหนัง

โซฟาหนังมีให้เลือกทั้งหนังแท้และหนังเทียม เป็นวัสดุที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงาม ให้ความรู้สึกหรูหราและคลาสสิก สามารถยกระดับบรรยากาศห้องได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังทำความสะอาดง่ายและไม่อมฝุ่น แต่อาจจะมีสีสันให้เลือกน้อยกว่าผ้า 

โซฟาแบบไหนเหมาะกับคุณ

การเลือกโซฟาที่เหมาะสมจึงควรคำนึงถึง รูปทรง ขนาด และวัสดุ ให้เข้ากับทั้งบ้านและไลฟ์สไตล์การใช้งาน แต่ไม่ว่าคุณจะชอบโซฟาแบบไหน ที่ Adam เรามีให้เลือกครบทุกแบบ พร้อมบริการ คัสตอมขนาด วัสดุ และสี ให้ตรงกับความต้องการของคุณโดยเฉพาะ อีกทั้งยังมี Design Specialist ที่พร้อมให้คำแนะนำในทุกขั้นตอน เพื่อให้คุณได้โซฟาที่ทั้งสวยงาม ใช้งานได้จริง และอยู่คู่บ้านคุณไปอีกนาน

📍 ชมสินค้าได้ที่ Adam Flagship Store

Crystal Design Center (CDC) ตึก D ชั้น 1 และชั้น 2

Tel: 088-697-8956, 02-101-8886

LINE: @adamofficial

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *